ล่องแพแบบนี้ เรียกกันโดยทั่วไปว่าแพเทค ที่จริงเป็นแพแบบสองลำพ่วง
สำหรับทำเป็นลานกว้างๆ ท่อนหัว
และท่อนท้ายทำเป็นสองชั้นมีครัวและที่สำหรับนอน
ล่องไปตามลำน้ำแล้วจอดค้างคืนตามจุดที่กำหนดไว้
จะมีการเปิดไฟและเพลงเสียงดังๆ ประชันกันจนถึงเที่ยงคืน
จากนั้นก็จะล่องกลับที่ท่าที่เรามา ระหว่างทางผ่านสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
ก็สามารถจอดแวะได้ ราคาตามแต่จะตกลงกัน
หมายเลขโทรศัพท์สำหรับสอบถามรายละเอียดแพ
มีทั้งหมด 40 แพ แต่ขอใส่เท่านี้ก่อนไว้จะมาเพิ่มให้อีกครั้งครับ
แพกาญจนิกา | 034515140 | 0871640607 |
แพการ์ตูน | 034518125 | 0814338934 |
แพกิ่งไผ่ | 034511589 | 0819440382 |
แพตะวันรุ่ง | 034516073 | 0819306193 |
แพนกน้อย | 034518120 | 0819813009 |
แพนิตยา | 034513341 | 0812687018 |
แพน้องหนุ่ม | 0819413689 | |
แพพบเพื่อน | 034513092 | 0819430180 |
แพพรรณภา | 0819435646 | 0814099016 |
แพพันทวี | 034512572 | 0819468365 |
Gallery รูปภาพ ล่องแพ(เทค) ลำน้ำกาญจนบุรี
แพเทคแบบต่างๆ การ
ถ่ายภาพบรรยากาศแพเทคผมต้องพาครอบครัวขนาดใหญ่ขึ้นไปกันทั้งหมดเพื่อให้ได้
ภาพสมจริง ใช้ชีวิตกันบนนั้น 1 คืน แพเทค (ที่จริงนั้นเรียกว่าแพเฉยๆ
ก็ได้แต่เนื่องจากบนแพมีเครื่องเสียงและระบบไฟเหมือนในเทคจึงเรียกว่าแพเทค
แต่จะเช่าโดยไม่เปิดเทคก็ได้ครับ) มีอยู่ด้วยกันหลายแบบ
แล้วแต่ความต้องการของลูกค้า แบบที่เป็นที่นิยมหน่อยจะเป็น 2
ชั้นให้นักท่องเที่ยวมีส่วนพักผ่อนส่วนชั้นล่างก็เป็นส่วนบันเทิงไป
ราคาก็อยู่ที่แบบของแพ มีหลายความยาวให้เลือกด้วย มี 3 ตอน 2 ตอน
หรือที่เคยเห็น 4 ตอนเลยก็มี แพที่ผมใช้บริการมี 2 ตอน พ่วงกัน
มีชั้นเดียวผสมกับ 2 ชั้น ราคาเหมาลำคิดต่อ 1 คืน ประมาณ 5000
บาท(ราคาคนรู้จักกัน)
สอบถามราคาตามหมายเลขข้างบนเป็นเบอร์โทรที่รวบรวมไว้ต้นปี 2553
อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงบ้างแล้วจะหามาอัพเดตกันอีกครั้งหนึ่ง
การเดินทางไปตามแผนที่ที่เขียนไว้เข้าไปอ่านวิธีใช้แผนที่ในการหาเส้น
ทางอย่างละเอียดด้วยนะครับ
สามารถกำหนดจุดเริ่มต้นได้เองแล้วแผนที่จะบอกเส้นทางอย่างละเอียดให้จนถึง
ที่หมาย เมื่อไปถึงท่าแพ ระหว่างรอลูกค้าขึ้นแพ
แพจะจอดเรียงกันตามท่าที่มีบริการ ไม่ได้มีท่าเดียว
แต่ละลำจะจอดติดกันให้เดินถึงลำของตนได้ง่าย
เมื่อพร้อมกันแล้วก็จะออกพร้อมๆ กัน ตามกันไปไม่ห่างนัก
แพเทคดาดฟ้า เป็น
อีกแบบหนึ่งที่เหมาะสำหรับการชมวิวโดยเฉพาะ ชั้นบนเป็นดาดฟ้าโล่งชมวิวสวยๆ
ระหว่างการล่องแพได้ชัดเจน แต่หากฝนตกก็ต้องลงมาอยู่ชั้นล่างกันหมด
อันนี้ก็ต้องพิจารณาตามความเหมาะสมและขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของวันที่เดินทาง
ด้วย
เรือเล็กลากแพ ไม่
ว่าจะเลือกใช้แพแบบไหนก็ตาม
ทุกลำจะมีเรือลากเป็นเรือขนาดเล็กเหมือนกับเรือลากเรือสินค้าตามแม่น้ำเจ้า
พระยา ลากกันไปเรื่อยๆ ความเร็วไม่มากให้ได้ชมวิวกันเต็มอิ่มตลอดทั้งวัน
ชมวิวริมแม่น้ำแคว ระหว่าง
การเดินทางด้วยแพ ช่างภาพก็ทำหน้าที่เก็บภาพไปเรื่อยๆ
สองฝั่งของแม่น้ำส่วนมากจะเป็นวิวภูเขา และบ้านทรงไทยที่มีอยู่ หลายหลัง
หรือจะถ่ายวิถีชีวิตริมแม่น้ำของชาวบ้านละแวกนี้ก็ได้
นอกจากนี้แล้วแพจะมีจุดจอดแวะหลายจุดขึ้นอยู่กับว่านักท่องเที่ยวจะลงไป
เที่ยวหรือเปล่า บางจุดอย่างพระสังกัจจายน์
ก็จะต้องเดินขึ้นเนินเขาสูงหน่อยเล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันหากไม่จอดก็ไปกัน
ต่อ
การใช้ชีวิตบนแพ บน
แพเทคนั้นหลายลำมีบริการเครื่องครัวต่างๆ เช่น หม้อ กะทะ จาน ชาม เตา ถ่าน
ฯลฯ อันนี้ต้องสอบถามให้แน่ใจซะก่อนนะครับ หากบางลำไม่มีจะมาว่าเราไม่ได้นะ
ถ้าไม่มีมันก็ต้องเตรียมกันไปเองบ้างให้พอกับที่ต้องใช้ทำกับข้าวได้ 2 วัน
สำหรับหมู เห็ด เป็ด ไก่ เนื้อ ปลา ผัก
เหล่านี้ต้องเตรียมไปเองครับจัดเมนูกันให้ดี ซื้อกันไปให้พอ
ถ้าไม่พอจะไม่มีขายในช่วงกลางวันจะเปิดเพลงเต้นกันก็ได้
สำหรับกลุ่มแม่ครัวก็ทำอาหาร ล้างชามกันไปตามหน้าที่
บรรยากาศบนแพเทค ที
นี้พอตกกลางคืนเปิดไฟเข้าหน่อย เปิดเพลงกันดังๆ ก็กลายเป็นเทคได้แล้ว
ในระหว่างช่วงกลางคืนแพเทคทุกลำจะต้องเดินทางไปถึงที่จอดพักซึ่งเป็นจุด
เดียวที่จะเปิดเพลงกันดังๆ ได้
แต่ถึงเที่ยงคืนก็ต้องปิดกันให้หมดจะเปิดต่อไปไม่ได้แล้ว
ที่จุดจอดพักเป็นจุดที่ให้ลงเล่นน้ำได้ ควรเล่นใกล้ๆ ฝั่ง
เพราะแม่น้ำแควนั้นทั้งเชี่ยวทั้งลึก
แม่ว่าจะอยู่ใกล้ฝั่งก็ยังลึกจนขาไม่ถึงพื้นเหมือนกัน ต้องเกาะแพไว้
สำหรับเด็กๆ
ควรมีเสื้อชูชีพให้ใส่กระแสน้ำที่เชี่ยวมากผู้ใหญ่ลงเล่นยังเหนื่อยเลยครับ
อีกภาพหนึ่งบนแพถ้ามาในช่วงวันสงกรานต์
จะตักน้ำจากแม่น้ำมาเล่นกันอย่างสนุกสนานโดยเฉพาะเด็กๆ
แต่การตักน้ำนั้นต้องทำอย่างระวังเดี๋ยวหัวทิ่มลงไป จะอันตรายมาก
หากตกน้ำระหว่างท่อนแพจะไปอยู่ใต้แพและอาจจะถึงตายได้เพราะหาทางออกไม่เจอ
ภาพสุดท้าย คุณแม่โชว์ลอยน้ำ นี่ก็เพิ่งเคยเห็นว่าแม่ลอยน้ำได้
ไม่เคยโชว์ที่ไหนมาก่อนนะเนี่ย
ชมวิวกันต่อ ในเช้าวันรุ่งขึ้นก็ยังมีเวลามากพอให้เก็บภาพวิวสวยๆ สองฝั่งแม่น้ำแควและออดเดินทางสำหรับการล่องกลับที่ท่าแพที่เรามา
วิวสวยๆ แม่น้ำแคว อีก
ภาพหนึ่งที่ประทับใจ เรือขายสินค้าที่แล่นไปมาเทียบกับแพเพื่อหาลูกค้า
สินค้าที่เรือเหล่านี้ขายก็จะเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กาแฟ ขนม ฯลฯ
ราคานั้นแพงกว่าบนฝั่งนิดหน่อยพอรับได้ หากเราเตรียมมาไม่พอก็ยังดีที่มีกิน
เรือลำนี้แล่นผ่านมามีฉากหลังเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน
เป็นวิวที่สวยงามจริงๆ
พระสังกัจจายน์ริมแม่น้ำแคว มา
ถึงจุดที่เป็นจุดแวะที่เจ้าของแพแนะนำว่าควรจะลงไปไหว้พระที่นี่ให้ได้
ศาลาและพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่มองเห็นแต่ไกลบนยอดเขาเตี้ยๆ
แต่พอเดินไปจริงๆ ก็ไม่เตี้ยเท่าไหร่เหนื่อยเหมือนกัน
พระสังกัจจายน์ริมแม่น้ำแคว มาถึงแล้วก็ไหว้พระเป็นสิริมงคลกัน มีเทียนธูป บริการพร้อมที่บนนี้
ชมวิวบนยอดเขา ไหว้
พระเสร็จแล้วก็จะใช้เวลากันพักใหญ่ๆ เพราะวิวบนนี้สวยงามกว่าที่คิดไว้
เป็นคุ้งน้ำสวยๆ ตลอดเส้นทางการล่องแพ วิวที่นี่น่าจะสวยที่สุดแล้ว
บรรยากาศแพเทคของลำอื่น ใน
ระหว่างการเดินทางย่อมมีการสวนกัน หรือแซงกันระหว่างแพของเรากับแพลำอื่นๆ
ก็มีการส่งเสียงตะโกนทักทายกันบ้าง
ลำที่เราแซงไปนี้ดูท่าทางน่าสนุกสนานมากทีเดียวเพราะมีวัยรุ่นเต็มลำเลย
วิถีชีวิตชาวลำน้ำแคว ก็
เป็นรวมภาพเรือสินค้า ที่มาเทียบแพเรามีมาเรื่อยๆ เป็นระยะๆ
แต่ไม่มากเท่าไหร่ ขอบอกว่าอย่าไปรอลำต่อไปถ้ามีเข้ามาก็ซื้อๆ ไปเถอะครับ
มาไม่บ่อยแต่มีเรื่อยๆ
ส่วนอีกลำก็เป็นคุณน้าคนหนึ่งพายเรือเทียบกับแพลำต่างๆ เพื่อขอขวดขอลังครับ
อาชีพนี้น่าจะรายได้ดีทีเดียวเพราะนักท่องเที่ยวไม่มีใครเอาขวดเปล่ากลับกัน
แน่ๆ เห็นพายมาเทียบแพแค่ลำสองลำก็ได้ของกลับไปเพียบเลย
ซื้อ-ขายสไตล์แพ เมื่อเรือสินค้าเข้ามาเทียบข้างแพก็ต้องส่งตัวแทนไป ซื้อของให้ครบตามจำนวนที่ต้องการกับแบบนี้แหละ
0 comments:
Post a Comment