เที่ยว วัดถ้ำเสือ น้ำตกร้อน วัดคลองท่อม จังหวัดกระบี่ วันที่ 24 มีนาคม - 25 มีนาคม 2555
วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ ปีนบันใด 1200 ขั้น
บันได 1,200 ขั้น ที่ลัดเลาะผ่านซอกเขาไปตามหน้าผาจนถึงยอด มันคงสูงและเหนื่อยไม่ใช่เล่น เพียงแค่แหงนหน้าขึ้นไปมองคนที่กำลังไต่บันใดอยู่ข้างบนอันสูงลิบก็ดูน่า หวาดเสียว ขึ้นไปแล้วจะสูงแค่ไหน ข้างบนนั้นมีอะไร จะขึ้นไปไหวหรือไม่ ดูเป็นสิ่งที่ท้าทายและชวนหาคำตอบยิ่งนัก ที่ยิ่งไปกว่านั้นมันเป็นการพิสูจน์ร่างกายและจิตใจได้เป็นอย่างดีนอนแช่น้ำตกร้อน ..น้ำตกร้อน คลองท่อม จ.กระบี่ นับเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยว unseen ของเมืองไทยอีกแห่งหนึ่ง หลายคนอาจจะเคยไป หรืออาจจะเคยผ่านไปบ้าง เพราะทางไปน้ำตกร้อนคลองท่อม เป็นทางเดียวกับสระมรกต Unseen เมืองไทยอีกแห่งหนึ่ง
ก่อนจะได้ชมความสวยงามของน้ำตกร้อน ก็จะต้องเสียค่าธรรมเนียมตามระเบียบค่ะ (ค่าเข้าชม เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท) และต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 200 เมตร ก็จะถึงตัวน้ำตก ทางเดินเป็นคอนกรีตสะดวกสบาย คล้าย ๆการเดินชมธรรมชาติ ในระหว่างทางจะเป็นลำธารและน้ำตกเล็ก ๆ และป่าไม้ขนาบข้าง ชมพืชพรรณธรรมชาติ เห็นความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้,,
น้ำตกร้อน คลองท่อม จ.กระบี่ เป็นน้ำพุร้อนแห่งหนึ่ง ในบรรดาน้ำพุร้อนอีกหลายแห่งที่กระจัดกระจายอยู่ในบริเวณนี้ น้ำจะไม่ร้อนมาก มีอุณหภูมิประมาณ 40-50 องศาเซลเซียส เป็นน้ำร้อนที่ซึมขึ้นมาจากผิวดิน ซึ่งมีป่าละเมาะปกคลุมร่มรื่น สายน้ำไหลไปรวมกันตามความลาดเอียงของพื้นที่ บางช่วงมีควันกรุ่นและคราบหินปูนธรรมชาติพอกอยู่เป็นชั้นหนา ทำให้เกิดทัศนียภาพสวยงามแปลกตา โดยเฉพาะบริเวณที่ธารน้ำร้อนไหลลงสู่คลองท่อมลดระดับเกิดเป็นลักษณะคล้าย ชั้นน้ำตกเล็ก ๆ
ร่วมกัน ปิ้งย่าง ปลา สดๆ
ก่อนกลับสงขลา แวะเที่ยว ชม พิพิธภัณฑสถานวัดคลองท่อม
อยู่บริเวณวัดคลองท่อม บนนถนนเพชรเกษม หลัก กม.ที่ 69-70
ห่างจากที่ว่าการอำเภอคลองท่อมประมาณ 1 กม.
นับเป็นสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจแก่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักสะสมของเก่า
วัตถุโบราณ
เพราะพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้เก็บสะสมสิ่งของวัตถุโบราณจำนวนมากมายที่ขุดพบได้
ในบริเวณที่เรียกว่า "ควนลูกปัด" อันเป็นเนินดินหลังวัดคลองท่อม
อาทิเช่น เครื่องมือหิน เครืองประดับซึ่งทำจากหิน และดินเผา รูปสัตว์ต่าง ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกปัดอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่เก่าแก่ของมนุษย์สมัย
เมื่อ 5,000 ปีเศษมาแล้ว
ประวัติความเป็นมาและการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ คลองท่อมเป็นชุมชนโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย และสมัยประวัติศาสตร์ เป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งในคาบสมุทรภาคใต้ฝั่งตะวันตก ตั้งแต่ปี พ.ศ.2509 มีการขุดขโมยโบราณวัตถุจากควนลูกปัด ในอำเภอคลองท่อมกันมาก พระครูอาทรสังวรกิจ(สวาท กนตสงโธ)เจ้าอาวาสวัดคลองท่อมเกรงว่าสมบัติของชาติจะสูญหาย จึงพยายามเก็บรวบรวมโบราณวัตถุต่าง ๆ ที่พบจากควนลูกปัดไว้ตั้งแต่บัดนั้น และนำมาจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ภายในวัดคลองท่อม โดยเปิดให้ประชาชนชมเพื่อศึกษาหาความรู้และเกิดความภาคภูมิใจในประวัติ ศาสตร์ของท้องถิ่น ต่อมาในปี พ.ศ. 2535สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯได้เสด็จเป็นประธานในการเปิดพิพิธภัณฑ์อย่าง เป็นทางการ
การจัดแสดง ตัวพิพิธภัณฑ์เป็นอาคารสองชั้น ชั้นล่าง จัดแสดงโบราณวัตถุบนชั้นเหล็ก ของส่วนใหญ่เป็นเศษโบราณวัตถุ เช่น เศษแก้ว เศษถ้วยชาม ครกหิน หินบดยา หินลับ และเครื่องมือเครื่องใช้สมัยก่อนชั้นบน แบ่งเป็นปีกขวาและซ้าย แสดงของจำพวกกำไล แหวน ขวานหินขนาดและรูปร่างต่าง ๆ ของแสดงอยู่ในตู้กระจกมีป้ายเล็ก ๆ บอกชื่อสิ่งของ ปีกซ้ายเป็นส่วนที่จัดแสดงได้น่าสนใจและเป็นระบบกว่าส่วนอื่น โบราณวัตถุชั้นสำคัญ เช่น ลูกปัดหน้าคน สันนิษฐานว่าเป็นรูป “พระสุริยเทพ” แก้วหลอมและเศษแก้วหลายสี บางก้อนมีเศษลูกปัดติดอยู่ในเนื้อแก้ว จึงสันนิษฐานว่าควนลูกปัดเคยเป็นแหล่งผลิตแก้วและลูกปัด ตราประทับที่จารึกด้วยอักษรปัลลวะ อายุระหว่างพุทธศตวรรษที่ 10–12ทั้งนี้มีพระภิกษุเป็นผู้นำชมทั้งภายในตัวอาคารพิพิธภัณฑ์เอง และนำชมบริเวณสถานที่จริงที่ขุดพบลูกปัด หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ควนลูกปัด นอกเหนือจากการจัดแสดงโบราณวัตถุแล้ว ทางพิพิธภัณฑ์ยังจัดนิทรรศการนอกสถานที่และทำกิจกรรมต่าง ๆเพื่อให้ความรู้แก่เด็กนักเรียน และปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัตถุโบราณในชุมชน
ประวัติความเป็นมาและการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ คลองท่อมเป็นชุมชนโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย และสมัยประวัติศาสตร์ เป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งในคาบสมุทรภาคใต้ฝั่งตะวันตก ตั้งแต่ปี พ.ศ.2509 มีการขุดขโมยโบราณวัตถุจากควนลูกปัด ในอำเภอคลองท่อมกันมาก พระครูอาทรสังวรกิจ(สวาท กนตสงโธ)เจ้าอาวาสวัดคลองท่อมเกรงว่าสมบัติของชาติจะสูญหาย จึงพยายามเก็บรวบรวมโบราณวัตถุต่าง ๆ ที่พบจากควนลูกปัดไว้ตั้งแต่บัดนั้น และนำมาจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ภายในวัดคลองท่อม โดยเปิดให้ประชาชนชมเพื่อศึกษาหาความรู้และเกิดความภาคภูมิใจในประวัติ ศาสตร์ของท้องถิ่น ต่อมาในปี พ.ศ. 2535สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯได้เสด็จเป็นประธานในการเปิดพิพิธภัณฑ์อย่าง เป็นทางการ
การจัดแสดง ตัวพิพิธภัณฑ์เป็นอาคารสองชั้น ชั้นล่าง จัดแสดงโบราณวัตถุบนชั้นเหล็ก ของส่วนใหญ่เป็นเศษโบราณวัตถุ เช่น เศษแก้ว เศษถ้วยชาม ครกหิน หินบดยา หินลับ และเครื่องมือเครื่องใช้สมัยก่อนชั้นบน แบ่งเป็นปีกขวาและซ้าย แสดงของจำพวกกำไล แหวน ขวานหินขนาดและรูปร่างต่าง ๆ ของแสดงอยู่ในตู้กระจกมีป้ายเล็ก ๆ บอกชื่อสิ่งของ ปีกซ้ายเป็นส่วนที่จัดแสดงได้น่าสนใจและเป็นระบบกว่าส่วนอื่น โบราณวัตถุชั้นสำคัญ เช่น ลูกปัดหน้าคน สันนิษฐานว่าเป็นรูป “พระสุริยเทพ” แก้วหลอมและเศษแก้วหลายสี บางก้อนมีเศษลูกปัดติดอยู่ในเนื้อแก้ว จึงสันนิษฐานว่าควนลูกปัดเคยเป็นแหล่งผลิตแก้วและลูกปัด ตราประทับที่จารึกด้วยอักษรปัลลวะ อายุระหว่างพุทธศตวรรษที่ 10–12ทั้งนี้มีพระภิกษุเป็นผู้นำชมทั้งภายในตัวอาคารพิพิธภัณฑ์เอง และนำชมบริเวณสถานที่จริงที่ขุดพบลูกปัด หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ควนลูกปัด นอกเหนือจากการจัดแสดงโบราณวัตถุแล้ว ทางพิพิธภัณฑ์ยังจัดนิทรรศการนอกสถานที่และทำกิจกรรมต่าง ๆเพื่อให้ความรู้แก่เด็กนักเรียน และปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัตถุโบราณในชุมชน
0 comments:
Post a Comment