Wednesday, September 12, 2012

พิพิธภัณฑ์พธำมะรงค์


อาคารพิพิธภัณฑ์ธำรงเคยเป็นบ้านพักของตระกูลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษของประเทศไทย ภายในอาคารมีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ของตระกูลในอดีต

- เปิดตั้งแต่แปดโมงครึ่งถึงสี่โมงเย็น หยุดวันจันทร์และวันหยุดราชการนะคะ

ตั้งอยู่ที่ ถ.จะนะ ต.บ่อยาง อ.เมือง ใกล้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา

การเดินทาง หากนำรถส่วนตัวไป ให้เริ่มจากวงเวียนหอนาฬิกาใช้ ถ.จะนะ ตรงไปเล็กน้อยจะเห็นพิพิธภัณฑ์พธำมะรงค์อยู่ทางขวามือบริเวณหัวมุมสี่แยก

การเดินทาง หากไปรถประจำทาง ให้ขึ้นรถตุ๊กตุ๊กสีแดง

ประวัติความเป็นมา พิพิธภัณฑ์พธำมรงค์เคยเป็นบ้านพักของรองอำมาตย์โทขุนวินิจพัณฑกรรม (บึ้ง ติณสูลานนท์) พะทำมะรงพิเศษเมืองสงขลา บิดาของพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ พลเอกเปรมเป็นบุตรคนที่ 6 และเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 16 ของประเทศ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งองคมนตรี เรือนตำกลางสงขลาได้ใช้บ้านหลังนี้จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้และประวัติวงศ์ สกุลติณสูลานนท์เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2532 ปัจจุบันเรือนจำกลางสงขลาได้มอบให้เทศบาลเมืองสงขลาเป็นผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ แห่งนี้

ตำแหน่งพะทำมะรง เดิมเขียน พธำมะรงค์ เป็นตำแหน่งของข้าราชการกรมราชทัณฑ์ คู่กับตำแหน่งพัศดี ปรากฏในกฎหมายตราสามดวงตั้งแต่ครั้งสมัยอยุธยา แต่ได้ยกเลิกไปตามประกาศของพระราชบัญญัติราชทัณฑ์เมื่อ พ.ศ.2479

น่าสนใจ น่าแวะ
เป็นเรือนไม้ยกพื้นชั้นเดียว หลังคาทรงปั้นหยาสองหลังคู่มีชานเปิดโล่งเชื่อมถึงกัน มีบันไดขึ้นด้านหน้า ภายในจำลองบรรยากาศบ้านพักของครอบครัวติณสูลานนท์ในอดีต มีการจัดแสดงสาแหรกตระกูล ข้าวของเครื่องใช้ในครัว เครื่องจักรสานต่างๆ เตียงนอน ปืนผาหน้าไม้ เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ประดับตกแต่งบ้านเรือนในอดีต เครื่องสีข้าวขนาดเล็กที่ใช้ในครัวเรือน มีภาพเก่าแก่ประดับตามผนัง บริเวณบ้านยังมีบ่อน้ำบาดาลที่เป็นน้ำใช้ของคนสมัยก่อนด้วย

ข้อมูลทั่วไป - พิพิธภัณฑ์พธำมะรงค์

พิพิธภัณฑ์พธำมะรงค์ หรือ บ้านของตระกูลติณสูลานนท์ ตั้งอยู่ที่เลขที่ 1 ถนนจะนะ ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา(ใกล้กับพิพิธภัณฑ สถานแห่งชาติสงขลา) ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีก แห่งหนึ่งของจังหวัดสงขลา จัดสร้างขึ้นโดยกรมราชทัณฑ์ในสมัยของนายสนิท รุจิณรงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ในขณะนั้น ทำการก่อสร้างเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ.2530 บนเนื้อที่143.5 ตารางวา งบประมาณ 736,039.26 บาท

เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2532 โดยนายพิศาล
มูลศาสตร์สาทร ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในขณะนั้น เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้อนุชนรุ่น
หลังได้ระลึกถึงตำแหน่ง "พะทำมะรง" (เดิมใช้คำว่า "พธำมะรงศ์") อันเป็นตำแหน่ง
เก่าแก่ของข้าราชการกรมราชทัณฑ์ ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี

ในขณะเดียวกันก็เป็นการ เชิดชูวงศ์ตระกูล "ติณสูลานนท์" ที่ครั้งหนึ่ง
รอง อำมาตย์โทขุนวินิจทัณฑกรรม (บึ้ง ติณสูลานนท์) บิดาชองพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ท่านได้เคยดำรงตำแหน่ง พะทำมะรง พิเศษเมืองสงขลา (พ.ศ.2457) จนกระทั่งได้มีประกาศใช้พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 ตำแหน่งพะทำมะรงจึงได้ถูกยกเลิกไป

พิพิธภัณฑ์พธำมรงค์ จังหวัดสงขลา เป็นพิพิธภัณฑสถานที่จำลองรูปแบบบ้าน
พัก เดิมของรองอำมาตย์โทขุนวินิจทัณฑกรรม ในขณะที่ท่านดำรงตำแหน่งพระทำมะรงพิเศษ เมืองสงขลา จากความทรงจำของ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ตัวพิพิธภัณฑ์เป็นเรือนไม้ยกพื้นชั้นเดียว หลังคาทรงปั้นหยา 2 หลังคู่ มีชานเปิดโล่งเชื่อมถึงกัน ภายในมีการจัดแสดงข้างของเครื่องใช้ของครอบครัวติณสูลานนท์ในอดีต และประวติสกุลวงศ์ ปัจจุบันเทศบาลนครสงขลาเป็นผู้รับผิดชอบดูแลและพัฒนาให้เป็นศูนย์ข้อมูลการ ท่องเที่ยว

อนึ่งที่มาของตระกูล "ติณสูลานนท์" นี้ได้รับพระราชทานมาจาก "พระ
บาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว" เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ปีพ.ศ. 2462
เพื่อ ให้ปวงชนชาวไทยได้มีนามสกุลเพื่อเป็นหลักในการสืบเชื้อสาย เป็นธงชัแห่งครอบครัว และให้ผู้สืบสกุลได้ตั้งทั่นในคุณงามความดี โดยการรักษา ชื่อเสียงเกียรติยศของบรรพบุรุษผู้เป็นต้นตระกูล ให้มีความเจริญรุ่งเรืองมั่นคงสืบไป

คำว่า ติณสูลานนท์ เป็นนามสกุลของหลวงวินิจ ทัณฑกรรม นามเดิมว่า "บึ้ง"
ผู้เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้องรวม 4 คน ของนายสุก และนางขลิบ
ราษฎรชาวสวนแห่งบ้านท่าใหญ่ ตำบลท่าดี อำเภอลานสกา นายบึ้ง เกิดเมื่อ 30
พฤศจิกายน พ.ศ.2424

คำว่า ติณสูลานนท์ มีความหมาย ดังนี้
"ติิณ "แปลว่า "หญ้า"
"สูลา" แปลว่า "คม ยอด "
"นนท์ " แปลว่า "ความพอใจ"
เมื่อรวมกันเข้าเป็นคำว่า "ติณสูลานนท์" แล้วจะแปลว่า "ความยินดีในหญ้าที่มีคม"

ภาพประกอบ : กิตติพร ไชยโรจน์
www.siamsouth.com
      

การเดินทาง

    ตั้งอยู่ที่ถนนจะนะใกล้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบ้านพักเดิมของรองอำมาตย์โทขุนวินิจทัณฑกรรม (บึ้ง ติณสูลานนท์)

0 comments:

Post a Comment